‘ประยุทธ์’ วอน ปชช. ไม่ต้องกังวล โอมิครอน BA4 BA5

‘ประยุทธ์’ วอน ปชช. ไม่ต้องกังวล โอมิครอน BA4 BA5

ประยุทธ์ วอนประชาชน ไม่ต้องกังวล โอมิครอน BA4 BA5 ชี้กระทรวงสาธารณสุขจับตามองต่อเนื่อง เน้นย้ำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกการกลายพันธ์ของไวรัสโควิด-19 สาธารณสุขได้ติดตามเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4/BA.5 อย่างใกล้ชิด

แม้องค์การอนามัยโลกจะจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลและต้องเฝ้าระวัง (VOC lineages under monitoring :VOC-LUM) 

เนื่องจากมีความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่ามีความรุนแรงมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยจัดระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยหนักและสายพันธุ์ย่อยต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการติดเชื้อ ป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนปฏิบัติตนตามข้อแนะนำด้านสุขอนามัยต่อไป

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ยอดผู้ป่วยโควิดโอมิครอน BA4 และ BA5 แล้ว 181 ราย ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ จากข้อมูลของห้องปฏิบัติการ พบว่า BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง L452R คล้ายสายพันธุ์เดลตา จากข้อมูลจนถึงปัจจุบันพบว่า ความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับความรุนแรงของโรค

สธ. เตือนประชาชนเฝ้าระวัง โอมิครอน BA4 BA5 หลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 181 ราย จากข้อมูลพบแพร่เชื้อได้เร็ว หลบภูมิมากขึ้น นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โอมิครอนสายพันธ์ BA.4 และ BA.5 ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันพบผู้ป่วยโอมิครอน BA 4 BA 5 แล้ว 181 ราย ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ

จากข้อมูลของห้องปฏิบัติการ พบว่า BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง L452R คล้ายสายพันธุ์เดลตา จากข้อมูลจนถึงปัจจุบันพบว่า ความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับความรุนแรงของโรค

“ในสัปดาห์นี้มีจำนวนตัวอย่างส่งตรวจมามาก จึงพบ BA.4 และ BA.5 เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนมาก ซึ่งต้องดูแนวโน้มอีก 2-3 สัปดาห์ต่อเนื่อง ว่าแนวโน้มของไทยจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร คนไข้อาการหนักจะถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยขอความร่วมมือกรมการแพทย์ โรงพยาบาล ถ้าคนไข้อาการหนักให้ส่งตัวอย่างมาตรวจหาสายพันธุ์ ทั้งนี้ เห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.4 และ BA.5 เพิ่มขึ้น แต่เป็นจำนวนไม่มาก จึงไม่อยากทำให้บรรยากาศของประเทศต้องเสียไป” นพ.ศุภกิจ กล่าว

นพ.ศุภกิจ ยังกล่าวอีกว่า ระบบการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีทั้งการตรวจแบบรู้ผลเร็ว และตรวจแบบละเอียด ยังสามารถตรวจหาสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ได้หมด เพียงแต่การตรวจแบบเร็วยังไม่สามารถแยกได้ว่าเป็น BA.4 หรือ BA.5 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความแตกต่างกันมาก

“ขณะนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าโอมิครอน BA.4 และ BA.5 จะแพร่ระบาดจนกลายเป็นโควิดระลอกใหม่ได้หรือไม่ เพราะทุกประเทศทั่วโลกมีการตรวจหาเชื้อลดลง ดังนั้น ตัวเลขที่รายงานเป็นทางการน่าจะต่ำกว่าสถานการณ์จริง ทั้งนี้ หากโรคไม่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นก็ไม่ส่งผลอะไร แต่หากโรคแพร่ระบาดเร็ว และมีความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจต้องมีการทบทวนมาตรการ อย่างไรก็ดี ขณะนี้มาตรการของประเทศไทยยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่ต้องเพิ่มการเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้น” นพ.ศุภกิจ กล่าว

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ยังรอด! ‘ชวน’ ตีตกคำร้องสอบจริยธรรม

เต้ มงคลกิตติ์ ที่ถูกยื่นฟ้องร้องสอบจริยธรรม จากกรณีโทรข่มขู่คดีแตงโมยังรอด ชี้ ทนายตั้มต้องยื่นประมวลจริยธรรม ส.ส.-กมธ.ปี 63 นายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงถึงกรณีที่ ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภา ขอให้สอบสวนจริยธรรม เต้ มงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จากกรณีที่โทรศัพท์ข่มขู่ทนายเดชา เรื่องคดีแตงโม

ทนายตั้มได้ตั้งคำถาม หลัง ทางสำนักงานฯ ได้ตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือร้องเรียนดังกล่าวว่า เป็นไปตามข้อ 11 ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 หรือไม่

ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า ประธานสภา ยังไม่สามารถตรวจสอบจริยธรรมของผู้ถูกร้องได้ โดยเหตุผลเป็นเพราะว่า หนังสือที่ผู้ร้องทำมานั้น ให้ตรวจสอบจริยธรรม ได้อ้างข้อบังคับของประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2564 แต่ผู้ถูกร้อง แม้จะเป็นส.ส. แต่อยู่ภายใต้ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อบังคับของประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง

อีกทั้งหนังสือร้องเรียน ต้องมีรายละเอียดตามข้อ 7 ของข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 โดยต้องทำเป็นหนังสือโดยใช้ถ้อยคำสุภาพ และมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ชื่อและที่อยู่ของผู้ร้อง รวมถึงวิธีการติดต่อสื่อสารที่สะดวก พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้

นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาที่จะระบุว่าสมาชิกหรือกรรมาธิการคนใด กระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมเรื่องใด โดยระบุเรื่องอันเป็นเหตุให้ต้องใช้สิทธิยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมระบุข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว และ 3.ต้องมีการลงลายมือชื่อผู้ร้อง

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า